สไตล์การแต่งบ้านแบบไหน? ที่ทำให้บ้านมี Mood & Tone ที่ใช่ในแบบคุณ
สไตล์การแต่งบ้านนั้นมีอยู่มากมาย หลาย ๆ คนที่กำลังอยากตกแต่งบ้านให้สวย ดูดี และมีสไตล์การตกแต่งบ้านที่เหมาะสมกับตัวเองจึงมักจะเป็นกังวล และไม่รู้ว่าจะแต่งบ้านด้วยสไตล์ตกแต่งบ้านแบบไหน ที่จะทำให้บ้านดูมี Mood & Tone ที่สวยงามและไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อส่งเสริมให้บ้านดูโดดเด่น และน่าอยู่อาศัยมากกว่าที่เคย
วันนี้เราจึงมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ 5 สไตล์การตกแต่งบ้านที่ให้ Mood & Tone ที่แตกต่างกัน เพื่อให้คนที่กำลังอยากแต่งบ้านแต่ไม่รู้ว่าจะแต่งในสไตล์ไหน ได้มีไอเดียที่แปลกใหม่และสามารถนำไปปรับใช้กับการตกแต่งบ้านของตัวเองได้อย่างเหมาะสม แล้วสไตล์การแต่งบ้านมีกี่แบบ แต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร ให้ Mood & Tone แบบไหน และเหมาะกับใครบ้าง ตามเราไปดูกัน!
5 Mood & Tone ของการตกแต่งบ้าน แบบไหนที่ใช่ใน ‘สไตล์’ คุณ
ถ้าถามว่าสไตล์การแต่งบ้านมีกี่แบบนั้น เราต้องขอบอกเลยว่าการตกแต่งบ้านนั้นมีหลายสไตล์มาก ๆ บ้างก็เป็นสไตล์ดั้งเดิมในแบบของประเทศต่าง ๆ บ้างก็เป็นสไตล์สุดทันสมัยที่เพิ่งได้รับความนิยม และบ้างก็เป็นสไตล์ที่เกิดจากการผสมผสานแนวคิดและไอเดียต่าง ๆ จนออกมาเป็นสไตล์ของการแต่งบ้านที่สวยงามไม่เหมือนใคร ในบทความนี้เราจึงขอหยิบยก 5 สไตล์การแต่งบ้านสุดฮิต ที่ให้ Mood & Tone ที่แตกต่างกัน ทั้งยังเหมาะกับประเทศไทยของเราเป็นอย่างมาก
และถ้าทุกคนพร้อมกันแล้ว เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมเงินสำหรับใช้ในการตกแต่งบ้านให้พร้อม แล้วตามเรามาเลือกสไตล์การตกแต่งบ้านที่ใช่ และมาทำให้การตกแต่งบ้านนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายกันดีกว่า!
1. Nordic (Scandinavian)
เริ่มต้นที่สไตล์การแต่งบ้านที่ให้ Mood & Tone ที่เรียบง่าย ดูอบอุ่น ตามสไตล์ของชาวยุโรปอย่างสไตล์ Nordic (Scandinavian) สไตล์ของการแต่งบ้านที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศในโซนสวีเดนและนอร์เวย์ ซึ่งจะเน้นการตกแต่งที่มีความเรียบง่าย ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกถึงความสบายใจ แต่ก็ยังคงชีวิตชีวาของการออกแบบเอาไว้จากของตกแต่งที่เป็นลวดลายตารางหมากรุก หรือเรขาคณิตต่าง ๆ
และนอกจากนี้หากใครต้องการแต่งบ้านในสไตล์ตกแต่งบ้านแบบ Nordic (Scandinavian) จะต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับช่องแสงต่าง ๆ ที่จะช่วยให้บ้านได้รับแสงจากธรรมชาติ และทำให้ห้องดูสว่าง ซึ่งจะส่งเสริมให้บ้านดูมีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น
โดยการแต่งบ้านในสไตล์นี้จะใช้ของตกแต่งที่มีสีอ่อน และมักจะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ หวาย ผ้าฝ้าย หรือลินินเป็นหลัก ซึ่งในการเลือกสีของกำแพง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งต่าง ๆ นั้น จะเลือกใช้โดยคำนึงถึง Mood & Tone ให้เป็นไปในทางของสีโทนอุ่น ใช้สีโทนอ่อนที่ให้ความรู้สึกสบายตา และยังสามารถใช้สีเข้มที่เป็นสีออกตุ่น ๆ เพื่อเสริมความโดดเด่นให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย
การแต่งบ้านสไตล์ Nordic (Scandinavian) เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย
- ผู้ที่รักในธรรมชาติ
- ผู้ที่รักในความอิสระ
2. Boho
เป็นสไตล์การแต่งบ้านที่จะทำให้ Mood & Tone ของบ้านไปในทิศทางของความสดใส โดดเด่น แสดงออกถึงความมีอิสระในการนำเสนอไอเดียของการเสริม เติม แต่ง บ้านให้สวยงามแบบไร้ขอบเขต โดยบ้านที่ตกแต่งในสไตล์นี้จะให้ความรู้สึกถึงบ้านในสไตล์วินเทจ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสดใส และความสนุกสนานของสีสันและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในการตกแต่ง เนื่องจากสีที่ใช้นั้นมักจะใช้เป็นการผสมผสานสีสันที่สดใสกับสีสันโทนธรรมชาติ ทำให้บ้านจะมีความอบอุ่นและมีชีวิตชีวาไปในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้เรายังสามารถแต่งบ้านให้มี Mood & Tone ในสไตล์การตกแต่งบ้านแบบ Boho ให้มากยิ่งขึ้นได้ ด้วยการใช้ของตกแต่งแนววินเทจต่าง ๆ อย่าง เครื่องแขวนที่เป็นผ้าปัก รูปศิลปะ รวมไปถึงหมอน และผ้าห่มที่มีลวดลายสไตล์วินเทจ จากนั้นให้เสริมการตกแต่งด้วยต้นไม้สวย ๆ ที่มีใบขนาดใหญ่ หรือไม้เลื้อยประดับต่าง ๆ และปิดท้ายด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นงานไม้ งานหวาย งานสาน งานถัก หรือผ้าบุที่มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์นั่นเอง
การแต่งบ้านสไตล์ Boho เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีสไตล์และตัวตนที่ชัดเจน
- ผู้ที่มีไอเดียที่หลากหลาย
- ผู้ที่ชื่นชอบสีสัน
- ผู้ที่ชื่นชอบการออกแบบบ้านอย่างไม่มีขอบเขต
3. Modern
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าสไตล์การแต่งบ้านมีกี่แบบ เราต้องขอบอกเลยว่าบ้านในสไตล์ Modern จัดว่าเป็นแบบบ้านสุดฮิต ที่สามารถนำไปผสมผสานและจับคู่กับการตกแต่งบ้านในสไตล์อื่น ๆ ได้หลากหลาย เนื่องจากบ้านในสไตล์นี้มี Mood & Tone ที่ทั้งเรียบง่าย แต่ก็ยังไม่น่าเบื่อ เพราะยังสามารถตกแต่งให้บ้านมีความโดดเด่นและมีชีวิตชีวาได้ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะตกแต่งแบบไหน บ้านก็จะดูดีขึ้นอย่างทันตา และจับคู่กับสไตล์ไหนก็ยังรอด จึงถือเป็นแบบบ้านที่นิยมกันอย่างมากในประเทศไทย
โดยการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้นั้นจะเน้นไปที่ความทันสมัยแบบเรียบง่าย ไม่ได้หรูหราจนเกินที่จะจับต้อง ด้วยการใช้ประตูและหน้าต่างบานใหญ่เพื่อเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ที่จะเสริมให้บ้านดูมีความโปร่ง ดูสบายตา ซึ่งเฟอร์นิเจอร์และวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ในการตกแต่งนั้นจะใช้เป็นโลหะ คอนกรีต ไม้ และกระจกนั่นเอง
นอกจากนี้เพื่อให้การตกแต่งเป็นไปใน Mood & Tone เดียวกัน ในสไตล์การแต่งบ้านสไตล์นี้เราจึงจะต้องเลือกใช้สีที่เป็นสีในโทนธรรมชาติ และเสริมความโดดเด่นภายในห้องด้วยสี 1 สีหรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของสีในห้องที่มีความแตกต่างและโดดเด่นขึ้นมา
การแต่งบ้านสไตล์ Modern เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา ทันสมัย
- ผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งที่ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก
- ผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย แต่รักสนุก
4. Minimal
สไตล์ตกแต่งบ้านแบบ Minimal ถือเป็นสไตล์ที่ทุกคนคงจะเคยได้ยินกันมาไม่มากก็น้อย เพราะการแต่งบ้านในสไตล์นี้ถือเป็นการแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร จากความสวยงาม ดูดี มีเอกลักษณ์ ที่ตอบโจทย์เหล่าคนรุ่นใหม่ และยังครองใจทุกเพศ ทุกวัยได้เป็นอย่างดี
โดยการแต่งบ้านในสไตล์ Minimal นี้นั้นได้รับอิทธิพลมาจากการแต่งบ้านสไตล์ Modern แต่จะมีการเพิ่มแนวคิดและคอนเซปต์ของการแต่งบ้านให้เน้นไปที่ความพอดี แสดงออกถึงความ ‘น้อยแต่มาก’ แม้จะมองดูจากภายนอกแล้วดูเหมือนจะมีการตกแต่งที่ไม่ยุ่งยาก แต่ก็ดูสวยงามจนน่าเหลือเชื่อ นั่นจึงทำให้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในสไตล์ Minimal นี้ จะเป็นสิ่งของที่ผ่านการวางแผนมาแล้วว่ามีความจำเป็นต่อการใช้งาน ไม่ซื้อของจุกจิก และไม่ทำการตกแต่งบ้านโดยไร้ซึ่งการวางแผน
และแน่นอนว่าเมื่อสไตล์ Minimal นี้ได้รับอิทธิพลมาจากการแต่งบ้านสไตล์ Modern จึงทำให้ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของการรับแสงสว่างจากธรรมชาติด้วยหน้าต่างบ้านใหญ่ที่จะทำให้ห้องดูโปร่ง และยังเพิ่มความดูดี มีสไตล์ ให้การตกแต่งบ้านเป็นไปใน Mood & Tone ของสไตล์การแต่งบ้านแบบ Minimal มากยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้สี Cool Tone หรือใช้สีในโทนธรรมชาตินั่นเอง
การแต่งบ้านสไตล์ Minimal เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและความมีระเบียบ
- ผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก ซับซ้อน
- ผู้ที่มักจะใช้ชีวิตอย่างไม่ฟุ่มเฟือย
- ผู้ที่ชอบความสะอาดและบ้านที่ดูปลอดโปร่ง
5. Modern Japanese
ปิดท้ายคำตอบของคำถามที่ว่าสไตล์การแต่งบ้านมีกี่แบบ ด้วยสไตล์ของการตกแต่งบ้านที่มี Mood & Tone ของบ้านที่จะให้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอย่าง Modern Japanese การแต่งบ้านที่เริ่มเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและถือเป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน
โดยการแต่งบ้านแบบ Modern Japanese นั้นเป็นสไตล์ที่ผสมผสานการแต่งบ้านแบบ Modern ที่ทันสมัยแต่เรียบง่ายกับสไตล์ความเป็นญี่ปุ่น ที่จะไม่ใช่การแต่งบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณ แต่จะใช้เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่มีความร่วมสมัย และยังต้องคงไว้ซึ่งความอบอุ่นในแบบฉบับของการตกแต่งของประเทศญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งในการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งนั้น จะเลือกใช้โดยคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก และถึงแม้จะมีพื้นที่น้อยก็จะสามารถตกแต่งให้ดูไม่อึดอัด และสามารถใช้งานทุกพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า โดยวัสดุที่ใช้นั้นจะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ และจะเลือกใช้สีให้มี Mood & Tone ไปในโทนของไม้สีอ่อน หรืออาจจะเลือกใช้เป็นสีครีม สีขาว หรือสีเอิร์นโทนอ่อน ๆ ก็ได้เช่นกัน
เรียกได้ว่าการตกแต่งในสไตล์การแต่งบ้านแบบ Modern Japanese นี้นั้นถือเป็นการผสมผสานการตกแต่งที่เน้นการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ในแบบของประเทศญี่ปุ่น ให้เข้ากับรูปแบบของการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
การแต่งบ้านสไตล์ Modern Japanese เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชอบวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น
- ผู้ที่มีพื้นที่ห้องน้อย หรือต้องการใช้สอยทุกพื้นที่ให้คุ้มค่า
- ผู้ที่ชอบความผ่อนคลาย สบายตา
- ผู้ที่ไม่นิยมใช้ของฟุ่มเฟือย เน้นการใช้งานมากกว่าการตกแต่ง
อยากแต่งบ้านในสไตล์ที่ใช่ เริ่มต้นอย่างไรดี?
เมื่อทุกคนสามารถเลือกสไตล์ตกแต่งบ้านที่ใช่ และตอบโจทย์กับความชื่นชอบของตัวเองกันได้เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะมาเริ่มตกแต่งบ้านให้สวยงามและคงไว้ซึ่ง Mood & Tone ของบ้านในสไตล์นั้น ๆ กันแล้ว!
และสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ให้สามารถตกแต่งบ้านได้แบบไม่มีติดขัด เราได้รวมวิธีวางแผนการตกแต่งบ้านมาให้ทุกคนแล้ว ตามเราไปดูกันต่อได้เลย
STEP 1 : วางแผนให้ดี เลือกสไตล์และ Mood & Tone ที่เหมาะกับตัวเอง
STEP 2 : กำหนดงบประมาณในการตกแต่งบ้านให้ชัดเจน
STEP 3 : ลิสต์รายการของตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องซื้อ
STEP 4 : หาแหล่งเลือกซื้อของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่คุ้มค่า น่าเชื่อถือ
STEP 5 : ทำรายรับรายจ่ายในการตกแต่งบ้าน เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลาย
STEP 6 : ค่อย ๆ ตกแต่งทีละน้อย ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งให้เสร็จในคราวเดียว
และนอกจาก 6 ขั้นตอนของการแต่งบ้านในสไตล์การแต่งบ้านที่ต้องการเหล่านี้ เราขอแนะนำทุกคนไว้ว่า อย่าลืมคุม Mood & Tone ให้อยู่ในสไตล์การแต่งบ้านของตัวเองที่ได้วางแผนไว้ เพราะถ้าเราแต่งบ้านโดยไม่มีคุม Mood & Tone ให้ดี ก็อาจทำให้เราไม่สามารถแต่งบ้านให้ออกมาในสไตล์ที่ต้องการได้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับสไตล์การตกแต่งบ้านยอดฮิตที่เราได้นำมาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก มีแบบไหนที่ถูกใจทุกคนกันบ้าง!? ถ้ามี ก็อย่าลืมนำความรู้ดี ๆ ที่ได้จากคำแนะนำของเราไปปรับใช้กับสไตล์การแต่งบ้านของตัวเองกันด้วยนะ
และสำหรับใครที่อยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสไตล์ตกแต่งบ้าน การแต่งบ้านในโครงการบ้านพร้อมอยู่ หรือเรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบ้าน ที่อยู่อาศัย และโครงการบ้านต่าง ๆ รอติดตามบทความดี ๆ ฉบับหน้าของเรากันได้เลย รับรองว่าจะต้องมีความน่าสนใจไม่แพ้เรื่องของสไตล์การแต่งบ้านมีกี่แบบ และการคุม Mood & Tone ของสไตล์การแต่งบ้านที่เราได้มาแนะนำในวันนี้อย่างแน่นอน!