รวมคำแนะนำสำหรับการต่อเติมบ้านแบบประหยัด เพื่อให้งบไม่บานปลาย
ต่อเติมบ้านแบบประหยัดนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ใครที่ต้องการต่อเติมบ้านแต่มีงบน้อย ไม่อยากให้งบบานปลาย และไม่อยากให้ราคาต่อเติมบ้านมากเกินไปฟังทางนี้! หลาย ๆ คน หลาย ๆ ครอบครัวที่อยากต่อเติมบ้านไม่ว่าจะเป็นการขยับขยาย การรีโนเวท วิธีตกแต่งบ้านให้สวยงามต้องทำแบบไหนก็คงจะมีความกังวลในเรื่องของงบประมาณและค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ไม่ใช่น้อย แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถทำการต่อเติมและตกแต่งบ้านแบบประหยัดได้ และที่สำคัญคืองบประมาณไม่มีบานปลายอย่างแน่นอน
แล้วจะทำได้อย่างไร..? วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการต่อเติมและตกแต่งบ้านในงบประมาณที่จำกัดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้ทุกคนได้รู้เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนต่อเติมและตกแต่งบ้านในอนาคต
เทคนิคการต่อเติมบ้าน ด้วยงบประมาณที่จำกัด
สำหรับเทคนิคในการต่อเติมและตกแต่งบ้านแบบประหยัดที่เราจะมาแนะนำในวันนี้มีอยู่ทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1. กำหนดงบประมาณให้ชัดเจน และควบคุมงบประมาณด้วยสัญญาที่ชัดเจน
เริ่มต้นที่การกำหนดงบประมาณและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ชัดเจนว่าเราพร้อมที่จะจ่ายในงบประมาณเท่าไหร่ เพื่อควบคุมไม่ใช้ค่าใช้จ่ายบานปลายออกไป โดยในส่วนนี้เราจะต้องรู้ก่อนว่างบประมาณในการตกแต่งบ้านนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ซึ่งมีตัวแปรมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การออกแบบ วัสดุหรืออุปกรณ์ที่เราเลือกใช้ ค่าการจ้างแรงงานต่าง ๆ รวมถึงค่าดำเนินการของผู้รับเหมา
และสำหรับใครที่กำหนดงบประมาณเรียบร้อยแล้ว หากมีการวางแผนและต้องการที่จะว่าจ้างผู้รับเหมาและอยากที่จะควบคุมงบประมาณไม่ให้เกิดการบานปลายในอนาคต เราขอแนะนำให้มีการทำสัญญาก่อสร้างเพื่อป้องกันการถูกหลอก ถูกโกง และเป็นการควบคุมงบประมาณให้อยู่ในงบที่เราได้ตั้งไว้ เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการ ต่อเติมบ้านแบบประหยัด
โดยในส่วนนี้เราจะมาแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับสัญญาก่อสร้างกันให้มากขึ้น
สัญญาก่อสร้าง
เราขอแนะนำให้ผู้ที่ต้องว่าจ้างผู้รับเหมา เป็นผู้ร่างสัญญาก่อสร้างขึ้น ซึ่งสัญญาก่อสร้างนั้นจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
1. สัญญาว่าจ้าง
- ระบุว่าผู้รับจ้างหรือผู้รับเหมาเป็นใคร โดยจะต้องมีเอกสารของบริษัทหรือสำเนาบัตรประชาชนประกอบ
- ระบุถึงวัตถุประสงค์ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งจะประกอบไปด้วยความต้องการของผู้ว่าจ้างว่าให้ทำอะไร ที่ไหน วงเงินหรือราคาต่อเติมบ้านครั้งนี้คือเท่าไร และต้องระบุถึงระยะเวลาการก่อสร้างที่ชัดเจนเป็นวันที่
- ระบุถึงรูปแบบการชำระเงิน โดยจะต้องกำหนดการจ่ายเงินเป็นงวด ๆ และเพื่อความมั่นใจ ควรระบุถึงค่าปรับหากงานล่าช้า
2. แบบก่อสร้าง
ในสัญญาก่อสร้างเพื่อการต่อเติมบ้านแบบประหยัดควรมีแบบก่อสร้าง หรือแบบของส่วนที่เราต้องการจะต่อเติมให้ชัดเจนและครอบคลุมในทุก ๆ ส่วน
3. ใบราคา (Bill Of Quantity)
ส่วนสำคัญสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือใบราคา หรือเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับราคาต่อเติมบ้านทั้งราคาวัสดุอุปกรณ์ ราคาค่าก่อสร้าง และราคาค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนนี้เราขอแนะนำให้มีไว้ 2 ชุด หรือก็คือ 1 ชุดของผู้ว่าจ้างอย่างเรา และอีกหนึ่งชุดสำหรับผู้รับจ้างหรือผู้รับเหมานั่นเอง
2. วางแผนจุดที่ต้องการต่อเติมก่อนเสมอ
เพื่อการต่อเติมทั้งภายในบ้านและการต่อเติมข้างบ้านราคาประหยัด เราจะต้องมีการวางแผนว่าเราต้องการต่อเติมในจุดใดบ้างก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้มีจุดอื่น ๆ งอกเงยขึ้นมาทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายบานปลายในอนาคต โดยในการวางแผนนั้น เราจะต้องเลือกจุดที่ต้องการต่อเติมและวางแผนว่าในจุดนั้น ๆ เราต้องการต่อเติมอะไรบ้าง ต้องการวิธีตกแต่งบ้านให้สวยงามให้ออกมาสไตล์ไหน หรือต้องการรีโนเวทจุดนี้ให้เป็นอะไรนั่นเอง ซึ่งเราขอแบ่งการต่อเติมบ้านเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
- การต่อเติมหน้าบ้าน เช่น การต่อเติมเพื่อทำหลังคากันสาด การต่อเติมหลังคาหน้าบ้าน การต่อเติมหลังคาที่จอดรถ
- ต่อเติมหลังบ้าน เช่น การต่อเติมเพื่อทำเป็นครัวหลังบ้าน
- การต่อเติมข้างบ้าน เช่น การต่อเติมบ้านเพื่อทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ การต่อเติมเพื่อทำเป็นสวนข้างบ้าน
- การต่อเติมพื้นที่ภายในบ้าน เช่น การต่อเติมเพื่อเพิ่มห้อง การทุบผนังห้องออกเพื่อขยายพื้นที่ห้อง
แต่ละจุดหรือพื้นที่ที่ต้องการต่อเติม..ควรต่อเติมแบบไหนดี
สำหรับใครที่ต้องการต่อเติมบ้านแบบประหยัดแต่ไม่รู้ว่าแต่ละจุดควรต่อเติมแบบไหนถึงจะเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด เรามีคำแนะนำมาให้ทุกคนแล้ว
หน้าบ้าน : ลานจอดรถ หรือการจัดสวนหน้าบ้าน
- พื้น
- ขอแนะนำให้เลือกใช้พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กวางบนคาน เพื่อความแข็งแรงและป้องกันการทรุดตัว เนื่องจากบริเวณนั้นเราจำเป็นจะต้องใช้งานในการจอดรถอยู่บ่อยครั้ง
- หากต้องการต่อเติมเพิ่มพื้นที่จากเดิม อาทิเช่น จัดสวนหน้าบ้าน เราแนะนำให้เทพื้นเพิ่มโดยเว้นระยะรอยต่อประมาณ 1 – 5 เซนติเมตร เพื่อความแข็งแรง และป้องกันการทรุดตัวในอนาคต
- หลังคา
- คำนึงถึงในการต่อเติมก็คือโครงสร้างของพื้นเป็นหลัก หากพื้นไม่ได้ลงเสาเข็มจะต้องมีการทำเสาเข็มแยกเพื่อรับโครงสร้างหลังคา
- สามารถต่อเติมหลังคาลานจอดรถได้หลากหลายรูปแบบตามราคาต่อเติมบ้านที่ได้กำหนดไว้ เช่น หลังคาเหล็ก หลังคาสำเร็จรูป เป็นต้น
หลังบ้าน : ครัวหลังบ้าน
- พื้น
- การต่อเติมบ้านในส่วนของพื้นครัวหลังบ้านขอแนะนำให้ใช้พื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
- ทำโครงสร้างของพื้นโดยมีเสาเข็มคอนกรีตประเภทหกเหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยมชนิดกลวง เพื่อรับโครงสร้างของหลังคา
- ควรเลือกใช้กระเบื้องปูที่ทำความสะอาดได้ เช่น กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นต้น
- เคาน์เตอร์
- หากเคาน์เตอร์อยู่กลางแจ้งจะต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ทนทาน เป็นหลัก โดยอาจจะเลือกใช้เป็นเคาน์เตอร์ก่อนั่นเอง
- เคาน์เตอร์ครัวจะต้องเลือกใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่าย
- หลังคา
- ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อความร้อน
- แนะนำเป็นโครงสร้างเหล็กหรือคอนกรีตเพื่อการต่อเติมบ้านแบบประหยัด
- ในการมุงหลังคาควรใช้เป็นวัสดุโปร่งแสง
ข้างบ้าน : พื้นที่อเนกประสงค์หรือสวนเล็ก ๆ ข้างบ้าน
- พื้น
- แนะนำให้เลือกต่อเติมพื้นโดยลงเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงเพื่อรองรับน้ำหนัก และป้องกันการทรุดตัว
- ผนัง
- ถ้าความชื้นบริเวณข้างบ้านมีสูงไม่ควรใช้ผนังโครงเบา ควรใช้เป็นผนังก่อ
- หากข้างบ้านมีความชื้นไม่มากและเป็นส่วนที่ไม่โดนแดดหรือโดนฝนบ่อย ๆ สามารถเลือกเป็นผนังโครงเบาได้เพื่อควบคุมราคาต่อเติมบ้านไม่ให้บานปลาย
- หลังคา
- เลือกต่อเติมหลังคาให้เหมาะสมกับสไตล์ของบ้าน
- เพื่อการต่อเติมข้างบ้านราคาประหยัดควรเลือกวัสดุให้อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้
ภายในบ้าน : ต่อเติมห้องต่าง ๆ
- เจาะผนัง
- แนะนำให้ทำการต่อเติมโดยเจาะผนังในส่วนที่เป็นผนังก่อ ผนังเบา หรือผนัง Precast
- เลือกจุดที่เจาะโดยจะต้องไม่เป็นส่วนผนังที่ใช้รับน้ำหนักและเป็นตำแหน่งที่ทำการเดินระบบท่อต่าง ๆ
- ต่อเติมผนัง
- หากต้องการต่อเติมบ้านแบบประหยัดสามารถต่อเติมโดยการกั้นห้องแบบชั่วคราว โดยเลือกใช้เป็นการใช้ผนังโครงเบา
- หากต้องการต่อเติมในระยะยาวและลดปัญหาเสียงรบกวน แนะนำให้ใช้เป็นผนังแบบถาวร เช่น ผนังก่อ
เสริมทริคการต่อเติมภายในบ้านบน ‘ผนังสำเร็จรูป’
นอกจากเทคนิคการต่อเติมบ้านด้วยงบประมาณที่จำกัดที่เราได้แนะนำกันไปแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเราอาจจะเสี่ยงทำให้งบประมาณการก่อสร้างบานปลายจากการต่อเติมผนังแบบผิด ๆ ได้ เพราะผนัง Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้น หากต่อเติมบ้านแบบประหยัดโดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย อาจส่งผลต่อความคงทนและความแข็งแรงของตัวบ้านได้!
ก่อนที่จะไปเริ่มต่อเติมและตกแต่งบ้าน Maneerin ขอแนะนำทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณควรรู้ในการต่อเติมผนัง Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่นิยมใช้กันในปัจจุบันให้ทุกคนได้รู้ ดังนี้
- หากต้องการเจาะผนัง Precast หรือผนังสำเร็จรูปเพื่อทำการต่อเติม เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาคาร หรือทำช่องประตู-หน้าต่าง จะต้องมีการปรึกษาวิศวกรก่อนเท่านั้น!
- ในการเจาะผนัง Precast ต้องใช้สว่านเจาะคอนกรีตในการเจาะ
- ในการเจาะผนัง Precast ควรเว้นระยะห่างจากช่องประตูหรือหน้าต่างประมาณอย่างน้อย 12-15 ซ.ม. ขึ้นไป
- ในขณะที่ทำการเจาะผนัง Precast หากไปส่วนที่เป็นเหล็กเสริมภายในผนังให้หยุดเจาะ แล้วขยับจุดที่จะทำการเจาะออกไปประมาณ 3-5 ซ.ม. ในแนวทแยง
- นอกจากนี้เราขอแนะนำว่าหากเจาะผนัง Precast เพื่อทำชั้นวางหรือแขวนสิ่งของ ให้เลือกขนาดของพุกดังนี้ ของที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาให้ใช้พุกพลาสติกเบอร์ 6 และเบอร์ 8 โดยจะสามารถรับน้ำหนักได้ 20 ก.ก. ต่อจุด หากของมีน้ำหนักปานกลางให้ใช้พุกเหล็ก เบอร์ 416 ที่จะสามารถรับน้ำหนักได้ 80 ก.ก ต่อจุด และหากเจาะเพื่อทำชั้นวางหรือแขวนของที่มีน้ำหนักมากให้ใช้พุกตะกั่ว 1/4 นิ้ว เนื่องจากจะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 ก.ก ต่อจุดนั่นเอง
3. เลือกผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ และมีความรู้ในเรื่องการต่อเติม
หากไม่ได้ทำการต่อเติมบ้านด้วยตนเอง การเลือกผู้รับเหมาคือทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่จะทำอย่างไรให้เราสามารถควบคุมงบประมาณในการต่อเติมและตกแต่งบ้านไม่ให้บานปลายกันล่ะ?
หากมีคำถามนี้เราขอแนะนำให้เลือกผู้รับเหมาให้ดี ที่จะช่วยให้เราต่อเติมบ้านได้อย่างคุ้มค่าและไม่มีปัญหาตามมาในอนาคต โดยการพิจารณาจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
- ประสบการณ์ของผู้รับเหมา
- ความรู้ของผู้รับเหมา
- รีวิวหรือคำแนะนำของลูกค้าหรือผู้ที่เคยว่าจ้าง
เนื่องจากหากผู้รับเหมาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และมีความรู้ เขาจะสามารถแนะนำสิ่งต่าง ๆ ที่เหมาะสมงบประมาณที่เรามีได้ ทำให้เราสามารถกำหนดราคาคร่าว ๆ ในการต่อเติมบ้านได้ อีกทั้งยังลดความเป็นไปได้ที่ค่าใช้จ่ายและงบประมาณต่าง ๆ ในการต่อเติมและตกแต่งบ้านจะงอกเงยมาในอนาคตจากการก่อสร้างที่ไม่มีมาตรฐานได้อีกด้วย
4. เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์สำหรับต่อเติมบ้านที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา
เทคนิคสุดท้ายเพื่อการต่อเติมบ้านแบบประหยัด งบไม่บานปลาย ที่เราขอแนะนำก็คือเราควรมีการคัดสรรและเลือกซื้อวัสดุที่มีคุณภาพจากแหล่งซื้อขายที่ราคาไม่แพง และใช้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ในการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์สำหรับการต่อเติมและตกแต่งบ้าน
- วางแผนเลือกซื้อและคำนวณน่าใช้จ่ายก่อนเสมอ
- ประยุกต์ใช้สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วมาตกแต่งเพิ่มเติม
- เลือกใช้ของมือสองคุณภาพดี
- DIY ของตกแต่งบ้านด้วยตัวเอง
- เลือกซื้อวัสดุ อุปกรณ์ หรือของตกแต่งจากท้องถิ่น ที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
- เลือกซื้อของตกแต่งและต่อเติมบ้านที่สามารถใช้งานได้นานเพื่อความคุ้มค่า
เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถต่อเติมบ้านแบบประหยัด งบไม่บานปลาย ทั้งการต่อเติมข้างบ้านราคาประหยัดและควบคุมราคาต่อเติมบ้านในส่วนต่าง ๆ กันได้แล้ว ในครั้งหน้าเราจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจอะไรมาแนะนำทุกท่าน รอติดตามกันได้เลย! และสำหรับใครกำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่หรือบ้านจัดสรรราคาถูก ทำเลดี ทางเราก็พร้อมแนะนำเช่นเดียวกัน สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่
- Website: https://www.maneerin.co.th/
- Phone: 038-101-111
- Facebook: https://www.facebook.com/ManeerinProperty
- Line OA : @maneerin / https://lin.ee/4Xbmgahzg
โครงการบ้านพร้อมอยู่
ต้อง “มณีรินทร์ พร็อพเพอร์ตี้ (Maneerin Property)” เท่านั้น!
– มณีรินทร์ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับเอเชีย –