สำหรับใครที่กำลังอยากเริ่มต้นแต่งบ้านในสไตล์รีสอร์ท เราขอแนะนำให้เลือกซื้อบ้านที่มีดีไซน์ที่สวยงาม ในสไตล์โมเดิร์น หรือเลือกซื้อบ้านในโครงการที่ออกแบบในคอนเซปต์ของบ้านชลบุรีราคาถูกในสไตล์รีสอร์ทอยู่แล้ว เพื่อให้การแต่งบ้านแนวรีสอร์ทตากอากาศนั้นเป็นไปอย่างง่ายดายและประหยัดงบในการก่อสร้างมากยิ่งขึ้น เพราะการที่เราเลือกซื้อบ้านที่มีดีไซน์ที่สวยงาม ดูทันสมัย และหรูหราอยู่แล้ว เพียงแค่ปรับเปลี่ยนหรือจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำให้บ้านมีความสวยงามและดูเหมือนบ้านในรีสอร์ทมากยิ่งขึ้นได้อย่างง่ายดาย 

และสำหรับผู้ที่มีบ้านอยู่แล้วต้องการจะแต่งบ้านไม่ว่าจะบ้านหลังเล็กหรือหลังใหญ่ของคุณให้สวยงามในสไตล์นี้ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะต้องมีการปรับปรุงส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่มากกว่าและอาจสิ้นเปลืองงบประมาณที่มากกว่า โดยเราได้รวมวิธีการปรับปรุงและแต่งบ้านให้สวยงาม ดูกว้างใหญ่ ในรูปแบบของบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ทที่สวยงามมาแนะนำให้ข้อต่อ ๆ ไป

สำหรับวิธีตกแต่งบ้านให้เป็นธรรมชาติในสไตล์รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศวิธีแรกคือการเลือกโทนสีที่สวยงามและลงตัว เพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมือนได้อยู่ในรีสอร์ทที่เหมาะกับการพักผ่อนที่แท้จริง เนื่องจากโทนสีคือสิ่งที่บอกได้ถึงภาพรวมของบรรยากาศภายในบ้าน เราสามารถคุมโทนสีให้สวยงามได้ทั้งโดนสีของผนัง พื้น ฝ้าเพดาน รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริงได้

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเทคนิคแต่งบ้านเล็กให้น่าอยู่ในสไตล์รีสอร์ทจะแนะนำให้เลือกเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสะอาดตาหรือก็คือการใช้โทนสีอ่อนอย่างสีขาว สีเทา หรือสีครีม ซึ่งเราสามารถคุมโทนสีได้ง่าย ๆ ด้วยหลักการ 3 ข้อ คือ

1. Analogous : ใช้สีในโทนเดียวกันหรืออยู่ในกลุ่มสีเดียวกันในการแต่งบ้าทั้งหลัง *แนะนำ*
2. Complementary : ใช้สีที่ตรงกันข้ามกันในการแต่งบ้าน โดยจะช่วยสร้างความโดดเด่นและกระตุ้นอารมณ์ได้ดี 
3. Triadic : เป็นวิธีตกแต่งบ้านให้สวยงามโดยใช้การเลือกใช้สีที่สมดุลในการแต่งบ้าน โดยเลือกจากกลุ่มสีแบบสมดุลหรือมีน้ำหนักของสีเท่า ๆ กัน 3 โทน เช่น สีเหลือง+แดง+น้ำเงิน

สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในการใช้เทคนิคแต่งบ้านเล็กให้น่าอยู่และสวยงามในสไตล์รีสอร์ทนั้น คือการแบ่งโซนห้องให้เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน พร้อมจัดระเบียบสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านให้ดีเพื่อให้การแต่งบ้านแนวรีสอร์ทตากอากาศเป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากวิธีนี้จะทำให้บ้านหลังเล็ก ๆ ดูกว้างขึ้น และยังช่วยให้บ้านดูสวยงามน่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าเวลาเราไปเข้าพักตามรีสอร์ทหรือบ้านพักตากอากาศ บ้านพักเหล่านั้นจะถูกจัดไว้อย่างมีระเบียบ น่าเข้าพักอาศัย และที่สำคัญคือมีการแบ่งสัดส่วนของห้องหรือพื้นที่ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี หากเราต้องการแต่งบ้านจัดสรรบางแสนให้ออกมาสวยงามเหมือนบ้านพักในรีสอร์ทเราจึงห้ามมองข้ามการจัดระเบียนสิ่งของและการแบ่งโซนห้องอย่างเป็นสัดเป็นส่วนนั่นเอง

การใช้ประตูกระจกแบบบานเลื่อนเป็นอีกหนึ่งคำแนะนำที่น่าสนใจสำหรับวิธีตกแต่งบ้านให้เป็นธรรมชาติในสไตล์รีสอร์ท เพราะการใช้ประตูกระจก นอกจากจะช่วยให้บ้านดูกว้างและใหญ่มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้บ้านของเรามีช่องทางการรับแสงจากธรรมชาติ พร้อมเป็นส่วนที่เราสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติภายนอกบ้านได้เป็นอย่างดี

และนอกจากการใช้ประตูกระจกแบบบานเลื่อนแล้ว เราขอเสริมเทคนิคแต่งบ้านเล็กให้น่าอยู่ด้วยการใช้ผ้าม่านที่มีสีที่สวยงาม เข้าคู่ และเหมาะสมกับโดนสีโดยรวมของบ้าน เพื่อเสริมให้บ้านดูหรูหรา มีมิติ และเพื่อให้เราสามารถเปิดปิดเพื่อเลือกรับแสงจากภายนอกได้อีกด้วย

ต่อมาคือวิธีตกแต่งบ้านให้สวยงามโดยออกแบบให้บ้านของเรามีเพดานที่สูง เนื่องจากบ้านที่มีเพดานสูงจะช่วยเพิ่มความโปร่ง โล่ง และดูสบายมากยิ่งขึ้น ลดความอึดอัดของบ้านหลังเล็ก ๆ ให้ดูกว้างใหญ่ อีกทั้งยังช่วยทำให้อากาศภายในล้านหมุนเวียนได้อย่างสะดวก ช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้บ้านที่มีเพดานสูงยังให้ความรู้สึกหรูหราและทำให้บ้านดูหรูหรา สง่างาม เสริมให้บ้านดูทันสมัย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านพักตากอากาศ ซึ่งตอบโจทย์มาก ๆ กับการแต่งบ้านให้เหมาะกับการพักผ่อนในสไตล์รีสอร์ทนั่นเอง

แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศเป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ก็คือบรรยากาศที่มีทั้งแสงและลมจากธรรมชาติที่ร่มรื่นพักเข้ามาราวกับได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทำให้การแต่งบ้านโดยสร้างพื้นที่ที่สามารถรับแสงและลมจากธรรมชาติจึงเป็นเทคนิคแต่งบ้านเล็กให้น่าอยู่และสวยงามในสไตล์รีสอร์ทที่เราแนะนำ

โดยเราสามารถเลือกใช้ประตูและหน้าต่างที่เข้ากับการออกแบบบ้าน โดยเฉพาะประตูและหน้าต่างบานเลื่อนที่เป็นกระจก เพราะจะสามารถเปิดปิดเพื่อรับลมได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือแสงจากธรรมชาติก็สามารถลอดผ่านเข้ามาได้อีกด้วย

การแต่งบ้านแนวรีสอร์ทตากอากาศที่เราแนะนำในข้อนี้คือการสร้างพื้นที่สีเขียวในบริเวณบ้านเพื่อเพิ่มความร่มรื่นและทำให้บ้านดูสวยงาม น่าอยู่ และเหมาะแก่การพักผ่อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีตกแต่งบ้านให้เป็นธรรมชาติในสไตล์รีสอร์ทนั้นก็ไม่ยาก เราอาจตกแต่งด้วยการจัดสวนเล็ก ๆ ไว้บริเวณหน้าบ้าน ข้างบ้าน หรือภายในรั้วบ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านและเพิ่มพื้นที่ในการพักผ่อนให้กับผู้อยู่อาศัยทุกคน

นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกตกแต่งภายในบ้านด้วยการเลือกใช้ต้นไม้ภายในบ้านที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการแต่งบ้านที่นอกจากจากจะทำให้บ้านสวยงามและเสริมบรรยากาศภายในบ้านให้ดูสงบ ร่มเย็นขึ้นแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน ทำให้บ้านมีอากาศที่บริสุทธิ์ พร้อมให้ทุกคนภายในบ้านได้พักผ่อนและสูดหายใจได้อย่างเต็มปอดนั่นเอง

การทำให้บ้านของเรามีกลิ่นหอมอยู่เสมอ เป็นเทคนิคแต่งบ้านเล็กให้น่าอยู่ในสไตล์รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศที่ช่วยส่งเสริมบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่และช่วยบำบัดอารมณ์รวมถึงจิตใจของผู้อยู่อาศัยให้ได้รับความผ่อนคลายทุกครั้งที่อยู่อาศัยภายในบ้าน จะเห็นได้จากบ้านพักในรีสอร์ทต่าง ๆ ที่มักจะใช้กลิ่นเพื่อสร้างความประทับใจและช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้เข้าพักนั่นเอง

โดยการเสริมกลิ่นหอมให้กับบ้านนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น

• ใช้เทียนหอม
• ใช้สเปรย์ปรับอากาศ
• ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน
• ใช้เครื่องฟอกอากาศ
• ดับกลิ่นถังขยะ แยกขยะ
• เปิดหน้าต่างให้อากาศในบ้านถ่ายเท

และหากเราเลือกเสริมกลิ่นหอมให้กับบ้านด้วยเทียนหอม สเปรย์ปรับอากาศ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความหอมต่าง ๆ ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยเสริมบรรยากาศให้กับวิธีตกแต่งบ้านให้เป็นธรรมชาติในสไตล์รีสอร์ทแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

• กลิ่นโรสแมรี่และกลิ่นกาแฟ : ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา
• กลิ่นมะลิและกลิ่นส้ม : ช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัว
• กลิ่นเปปเปอร์มิ้นต์และกลิ่นขิง : ช่วยเพิ่มสมาธิ
• กลิ่นลาเวนเดอร์และกลิ่นตะไคร้ : ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย

นอกจากวิธีการแต่งบ้านแนวรีสอร์ทตากอากาศที่เราได้แนะนำไปนั้น เพื่อให้การพักผ่อนในบ้านเป็นไปอย่างสมบูรณ์ เราควรเลือกตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม ช่วยมอบความสบายให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยฟังก์ชันที่ครบครันและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย

โดยเราขอแนะนำให้ไม่เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งบ้านมากจนเกินไป ให้เน้นไปที่เฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์ มีฟังก์ชันการใช้งานที่มาก และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน เพื่อแต่งบ้านไม่ให้ดูแคบ และไม่ทำให้บ้านดูอึดอัดจากการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่มากเกินไปนั่นเอง