มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ ใครอยากซื้อบ้านต้องรู้!
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลออกมาเพื่อขับเคลื่อนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโต หลังแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศชะลอตัว จากสภาพเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ลดลง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหา เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านชลบุรีหรือเช่าบ้านได้มากขึ้น ในบทความนี้ Maneerin Property ขอพาทุกคนไปอัปเดตมาตรการกระตุ้นอสังหา 2567 ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง?
ส่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาฯ มาตรการไหนเหมาะกับคุณ?
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน และเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) เป็นผลให้แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะประชาชนมีกำลังสร้างบ้าน ซื้อคอนโด หรือโครงการ
บ้านจัดสรรชลบุรีเพิ่มมากขึ้น
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับประชาชนที่หวังพึ่งพามาตรการกระตุ้นอสังหา 2567 ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ตาม Maneerin มาดูกันว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 มีอะไรบ้าง และมาตรการกระตุ้นอสังหาแบบไหนเหมาะกับคุณ
ลดค่าโอนจดจำนอง บ้าน คอนโดราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้ามาปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม สำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 ดังนี้
- ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01%
- ลดค่าจดทะเบียนการจำนอง อสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01%
สำหรับการซื้อขายและราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ลดหย่อนภาษีฯ สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้านเอง
มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน กำหนดให้บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนค่าจ้างก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้าง ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จ ตามสัญญาจ้างที่ได้กระทำขึ้นและเริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567-31 ธันวาคม 2568 และได้เสียอากรแสตมป์โดยวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยมีรายละเอียดลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนี้
- ลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาทต่อค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาทตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกันแล้ว ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
(เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง)
โครงการบ้าน Happy Home ดอกเบี้ยคงที่ 3% นาน 5 ปี
สำหรับโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home เป็นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนมีรายได้น้อยถึงปานกลางซึ่งต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง สามารถซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด ปลูกสร้างอาคาร ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร หรือซื้ออุปกรณ์
และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยได้
โดยมีรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home ดังนี้
- คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี
- ให้วงเงินกู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท และมีระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงิน
ของโครงการ
โครงการบ้าน Happy Life เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.98% ต่อปี
ส่วนโครงการบ้าน Happy Life เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นอสังหา 2567 ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ออกมาเพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด ปลูกสร้างอาคาร ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.98% ต่อปี
- ให้วงเงินกู้ต่อราย ตั้งแต่ 2,500,000 บาทขึ้นไป
- ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ
ส่งเสริมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (โครงการ BOI)
การให้การส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้ออกประกาศที่
ส. 1/2567 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2567 เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนาน 3 ปี ในวงเงินไม่เกิน 100% ของเงินลงทุนเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
1. ที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริมต้องมีพื้นที่ดังนี้
- กรณีอาคารชุดต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร
- กรณีบ้านเดี่ยวหรือบ้านแถว ต้องพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร
2. การก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริมต้องจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาเท่านั้น และต้องจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน)
3. ต้องมีที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขที่กำหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของที่อยู่อาศัยทั้งโครงการ
4. มีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสม
5. มีแผนผังและแบบแปลนที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ BOI และได้รับการอนุญาตก่อสร้างอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง
6. ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก่อนยื่นคำขอรับการส่งเสริม
7. ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2568 เป็นต้น
บ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงินให้กู้ 1.5 ล้าน ดอกเบี้ยคงที่ 3% นาน 5 ปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ผ่านโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3
ในวงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดในการขอสินเชื่อ ดังนี้
1. ผู้ขอสินเชื่อต้องเป็นผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกประเภทในระดับราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อหลักประกัน
ทั้งประเภทบ้านหรือคอนโดมิเนียม ที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ บ้านมือสอง หรือเพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย
2. ในช่วง 5 ปีแรก มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี
3. หากกู้เงิน 1 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้น 4,100 บาทต่อเดือน ขณะที่กู้เงิน 1.5 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้น 6,200 บาทต่อเดือน
4. ยกเว้นค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)
5. ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 40 ปี
6. สามารถยื่นกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อเต็มตามกรอบโครงการ
วิธีสมัครโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3
สำหรับใครที่สนใจโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 สามารถขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการได้ที่แอปพลิเคชัน GHB ALL GEN หรือ GHB ALL โดยมีขั้นตอนการขอรับรหัส ดังต่อไปนี้
1. ให้ดาวน์โหลด Application GHB ALL GEN และเพิ่มเพื่อนทาง Line GHB Buddy
2. การขอรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 สามารถทำได้ผ่านแอป GHB ALL GEN หรือ GHB ALL
3. เข้า Line GHB Buddy เพื่อขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ผ่าน หากเคยลงทะเบียนแล้ว ให้คลิก “บริการพิเศษ” และ “เข้าร่วมโครงการบ้าน
ล้านหลัง” เพื่อขอรหัสได้ทันที
4. ให้นำรหัสไปติดต่อยื่นกู้ที่สาขา ธอส. ได้ทั่วประเทศ
มาตรการ LTV ให้กู้เพิ่มได้ 10%
มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ Loan to Value: LTV เป็นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาเพื่อช่วยให้ประชาชนกู้บ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงได้ง่ายขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
ราคาบ้าน | จำนวนสัญญาที่ยังผ่อนอยู่ | การวางดาวน์ขั้นต่ำ |
---|---|---|
< 10 ล้านบาท | สัญญาที่ 1 | กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน |
สัญญาที่ 2 | 10% หากผ่อนสัญญาที่ 1 ≥ 2 ปี | |
20% หากผ่อนสัญญาที่ 1 < 2 ปี | ||
สัญญาที่ 3 ขึ้นไป | 30% | |
≥ 10 ล้านบาท | สัญญาที่ 1 | 10% |
สัญญาที่ 2 | 20% | |
สัญญาที่ 3 ขึ้นไป | 30% |
นอกจากนี้ผู้กู้สามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างค่าตกแต่ง ซ่อมแซม หรือต่อเติมบ้าน เป็นต้น
มาตรการ LTV ปรับเกณฑ์เพิ่ม เอื้อคนซื้อบ้านกรณีกู้ร่วม
เพื่อป้องกันการเกิดหนี้เสียที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้กู้ร่วมซื้อบ้าน ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนปรนการนับสัญญากรณีกู้ร่วมใหม่ ดังนี้
- หากผู้กู้ร่วมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ผ่อนปรนเสมือนยังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้กู้ร่วมให้ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสมมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 1
- ครั้งที่ 1 นาย A และนาย B กู้ร่วมซื้อบ้านด้วยกัน แต่กรรมสิทธิ์เป็นของนาย B คนเดียว = ผ่อนปรนไม่นับนาย A เป็นผู้กู้
- ครั้งที่ 2 ต่อมานาย A ยื่นกู้ซื้อบ้านของตนเอง = เป็นสัญญากู้ซื้อบ้านที่ 1 ของนาย A
ตัวอย่างที่ 2
- ครั้งที่ 1 นาย A ยื่นกู้ซื้อบ้านคนเดียว = กรรมสิทธิ์เป็นของนาย A และเป็นสัญญาที่ 1 ด้วย
- ครั้งที่ 2 นาย A และนาย B กู้ร่วมซื้อบ้านด้วยกัน แต่กรรมสิทธิ์เป็นของนาย B คนเดียว = เป็นสัญญาที่ 1 ของนาย B เท่านั้น และผ่อนปรนไม่นับนาย A เป็นผู้กู้
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านอสังหาริมทรัพย์ มีข้อดียังไง
แม้มาตรการกระตุ้นอสังหา 2567 จะเป็นมาตรการระยะสั้น แต่นอกจากสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านชลบุรี ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด หรือคอนโดทั้งมือ 1 และมือ 2 มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ยังส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย โดยข้อดีของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีดังนี้
1. ตลาดที่อยู่อาศัยสามารถขับเคลื่อนไปได้ ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของเงินได้อย่างเต็มระบบและจำนวนมาก นั่นเท่ากับว่าในปี 2567 แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
จะเกิดการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น
2. กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง
3. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน เป็นแรงจูงใจให้คนสร้างบ้านเพิ่มซึ่งเรื่องนี้ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจการก่อสร้างและวัสดุ
ก่อสร้าง
4. ดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย
5. เมื่อมีโครงการบ้านจัดสรรหรือปลูกบ้านพิ่มขึ้น การจ้างงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่อมเพิ่มสูงตามไปด้วย
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไหนบ้าง เข้าร่วมกับโครงการ Maneerin ได้
เมื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ของภาครัฐ พบว่าโครงการบ้านในเครือมณีรินทร์หลายโครงการสามารถเข้าร่วมมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ได้ เพราะ Maneerin Property มีบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทที่เข้าเกณฑ์โครงการบ้าน Happy Home และโครงการบ้าน Happy Life ให้เลือกซื้อ เช่น
- Maneerin Modernhome บ่อวิน มาพร้อมบ้านแฝดและทาวน์โฮม พร้อมคลับเฮ้าส์และสวนขนาดใหญ่ที่ช่วยเติมเต็มชีวิตในแบบของคุณ
- MIDTOWN อมตะ กับบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์ใหม่ มาพร้อมฟังก์ชันตอบโจทย์ครบครัน บนทําเลอมตะ-ดอนหัวฬ่อ
- Midtown ซอย12 บ้านสไตล์ Modern ที่มีให้เลือกถึง 4 แบบตอบโจทย์วิถีชีวิตครอบครัวยุคใหม่ บนทำเลอมตะนคร นาเขื่อน เข้าสู่ตัวเมืองง่ายและยังใกล้
แหล่งที่ทำงาน - M Village บ่อวิน-หนองก้างปลา มาพร้อมทาวน์โฮม 1 ชั้น และ 2 ชั้น บนทำเลทองที่วัยทำงานไม่ควรมองข้าม เพราะใกล้นิคมอีสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง
จะเห็นได้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ นอกจากมุ่งเน้นให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยผ่านมาตรการกระตุ้นอสังหา 2567 ได้ง่ายขึ้น แต่ยังต้องการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นใครที่วางแผนซื้อบ้าน คอนโด หรือปลูกบ้านในปีนี้ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นตัวช่วยสานฝันที่คนอยากมีบ้านไม่ควรมองข้าม